วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

Journey to the Promised Land Part 5 Egypt vs Canaan


ความเดิมจากตอนที่แล้ว เรื่องของแผ่นดินพระสัญญา (The Promised Land) เป็นเรื่องที่ผู้เชื่อหลายต่อหลายคน เข้าใจความหมายของมันผิดเพี้ยนไปจากที่พระเจ้าต้องการสื่อสาร พระคัมภีร์เดิมเป็นเงา (Shadow) ของแก่นสาร (Substance) ในพระคัมภีร์ใหม่ ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิมได้ถูกซ่อนอยู่ในหลายรูปแบบ อาทิเช่น คน, เหตุการณ์ หรือสถานที่ ในบทความนี้ เราจะมาถอดรหัสภาพสัญลักษณ์ของ "แผ่นดินพระสัญญา" ในพระคัมภีร์เดิม ร่วมกันว่า มันเป็นภาพเล็งถึงอะไรในพระคัมภีร์ใหม่??


ถ้าพี่น้อง เพื่อนๆ ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 แผ่นดินพระสัญญาคืออะไร? ผมอยากให้พี่น้อง เพื่อนๆ ลองกลับไปอ่านดูนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจเนื้อหาต่อเนื่องในตอนที่ 2 นี้


ฮีบรูบทที่ 3 ตั้งแต่ข้อ 7 ต่อเนื่องถึงบทที่ 4 ข้อ 13 พระเจ้าได้พูดถึง เหตุการณ์ 40 ปีในถิ่นทุรกันดาร จริงๆ แล้ว เนื้อหาหลักที่พระเจ้าพูดถึงในบริบทดังกล่าว คือการไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญาของคนอิสราเอล พระเจ้าเรียกการไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญาว่า "การไม่ได้เข้าสู่การพำนัก" คำว่า "การพำนัก" มาจากคำภาษากรีกว่า "Katapausis" ซึ่งมีความหมายถึง ความสงบของคลื่นลมในทะเล หรือสถานที่พักผ่อน

ฮบ 3:11 ตามที่เราปฏิญาณด้วยความพิโรธว่า "เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งเราจัดให้"
Heb 3:11 So I swore in My wrath, 'They shall not enter My rest.' (NKJ)


การไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญา เป็นภาพเล็งถึง การไม่ได้พักสงบในพระเจ้า ไม่ใช่หมายถึงความรอด เหมือนที่ผู้เชื่อหลายๆ คนเข้าใจ

เหตุการณ์ปัสกา เป็นภาพสัญลักษณ์ของความรอด ในขณะที่เหตุการณ์หลังจากปัสกา เป็นภาพสัญลักษณ์ ของการดำเนินชีวิตหลังได้รับความรอด

เหตุการณ์ในตอนนั้น พระเจ้ากำลังมาปลดปล่อยคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ ชัดเจนว่า หลังจากรับเชื่อแล้ว พระเจ้าไม่ปรารถนาให้ผู้เชื่อดำเนินชีวิตอยู่ในอียิปต์ (Egypt) แต่ให้ไปอยู่ในแผ่นดินพระสัญญา หรือ คานาอัน (Canaan)

ทีนี้ เราจะมาถอดรหัสภาพสัญลักษณ์กันต่อว่า อะไรคือการดำเนินชีวิตในอียิปต์ (Egypt) และอะไรคือการดำเนินชีวิตในคานาอัน (Canaan)?

โดยเราจะแปลความหมาย 2 ภาพสัญลักษณ์ที่เป็นสถานที่นี้ ผ่านคำจำกัดความ ที่พระคัมภีร์ได้ให้ไว้ ในบริบทของการดำเนินชีวิต เพราะความหมายของการเดินในถิ่นทุรกันดาร คือการดำเนินชีวิตหลังได้รับความรอด


อียิปต์ (Egypt)

กดว 11:5 เราระลึกถึงปลาที่เราเคยกินในอียิปต์โดยไม่ต้องซื้อ ทั้งแตงกวา แตงโม กระเทียมจีน หอมใหญ่ หัวกระเทียม 



กันดารวิถีบทที่ 11 ข้อ 5 คนอิสราเอลได้พูดถึงหกประเภทอาหารที่พวกเขาทานเป็นประจำ เมื่ออยู่ในอียิปต์: ปลา, แตงกวา, แตงโม, กระเทียมจีน, หอมใหญ่ และหัวกระเทียม พืชผักผลไม้ ที่พวกเขาทานประจำ เป็นพืชผักประเภทหัว และฝังอยู่ในดิน ซึ่งพวกเขาต้องไปขุด - เป็นภาพเล็งถึงชีวิตที่เหนื่อยยากลำบาก หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน

คานาอัน (Canaan)

ฉธบ 6:10-11  10 "เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะพาท่านมาถึงแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ว่าจะให้แก่ท่าน มีหัวเมืองใหญ่โตและดีซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 และเรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งพวกท่านมิได้สะสมไว้ และบ่อขังน้ำที่ท่านมิได้ขุดและสวนองุ่นกับสวนมะกอกเทศ ซึ่งท่านมิได้ปลูกไว้และเมื่อท่านได้รับประทานก็อิ่มหนำ

ฉธบ 8:7-10  7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงพาท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ดี เป็นแผ่นดินที่มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมากลางหุบเขาและเนินเขา 8 แผ่นดินที่มีข้าวสาลีและข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ต้นทับทิม เป็นแผ่นดินที่มีต้นมะกอกเทศและน้ำผึ้ง 9 เป็นแผ่นดินที่ท่านจะรับประทานอาหารอย่างอุดม ซึ่งท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย เป็นแผ่นดินที่ศิลาเป็นเหล็ก และท่านจะขุดทองแดงได้จากภูเขา 10 ท่านจะได้รับประทานอิ่มหนำ และท่านจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ในเรื่องแผ่นดินอันดีซึ่งพระองค์ประทานแก่ท่านนั้น

ยชว 24:13 เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกายบนนั้น และยกเมืองซึ่งเจ้าทั้งหลายไม่ต้องสร้างให้แก่เจ้าและเจ้าทั้งหลายได้เข้าอยู่ เจ้าได้กินผลของสวนองุ่นและสวนมะกอกเทศ ซึ่งเจ้าไม่ต้องปลูก'



จากพระคัมภีร์ สามข้อข้างบน เราจะเห็นจุดร่วม ที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ภาพของความอุดมสมบูรณ์ ที่ได้มาจากการจัดสรร จัดเตรียมให้เสร็จ ไม่ต้องเหนื่อยยาก - เมืองใหญ่โต ที่ท่านไม่ได้สร้าง, อุดมด้วยของดี ที่ท่านมิได้สะสม, บ่อน้ำที่ท่านมิได้ขุด, สวนมะกอกเทศ ท่านมิได้ปลูก, ลักษณะผลไม้ของคานาอัน (องุ่น, มะเดื่อ, ทับทิม และมะกอกเทศ) เป็นผลไม้ที่เก็บได้ง่ายๆ ไม่ต้องหลังขดหลังแข็ง เหมือนพืชผักผลไม้ในอียิปต์

ภาพของคานาอัน ทำให้ผมนึกถึงภาพของสวนเอเดน พระเจ้าสร้างอาดัมวันที่หก หลังจากที่พระเจ้าได้สร้างสิ่งสารพัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานของอาดัมก่อนล้มลงในบาป เรียกได้ว่า เป็นงานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องเหนื่อยยาก เพราะเป็นงานที่พระเจ้า ได้จัดเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย สมบูรณ์แบบหมดแล้ว

ฮบ 3:19  ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า เขาไม่สามารถเข้าไปสู่การพำนักนั้นได้ก็เพราะเขาไม่ได้เชื่อ 

พระธรรมฮีบรู ได้กล่าวต่อไปในข้อ 19 ของบทที่ 3 ว่า เหตุผลที่คนอิสราเอล ไม่ได้เข้าคานาอัน เพราะพวกเขาไม่เชื่อ พวกเขาไม่เชื่อในความดีของพระเจ้า ภาพสัญลักษณ์ของอียิปต์ เล็งถึงผู้เชื่อที่ดำเนินชีวิตคริสเตียนอย่างกระเสือกกระสน ยากลำบาก แทนที่จะได้ดื่มด่ำในพระพรที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้กับพวกเขา เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะ "ความไม่เชื่อ" ไม่เชื่อในความรัก และความดีของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา


นี่จึงเป็นเหตุผลที่่ว่า ทำไมทุกครั้งที่พวกเขาเผชิญอุปสรรคปัญหา เจอความยากลำบาก พวกเขาถึงได้บ่นต่อว่าพระเจ้าผ่านทางโมเสส ประโยคบ่นยอดนิยมของพวกเขาก็คือ "ท่านนำพวกเขามาตายในถิ่นทุรกันดารทำไม"

แท้ที่จริงแล้ว พระเจ้าทรงรักพวกเขามาก ศัตรูไล่ล่าพวกเขา พระเจ้าทรงเปิดทะเลแดง ให้พวกเขาได้เดินข้าม เมื่อพวกเขาเจอน้ำขม พระเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำขม ให้หวานเพื่อพวกเขา พวกเขาไม่มีน้ำดื่ม พระเจ้าทรงให้น้ำไหลออกมาจากหิน ตอนที่บาลาอัมจะสาปแช่งพวกเขา พระเจ้าทรงเปลี่ยนคำสาปแช่งให้กลายเป็นคำอวยพร


พระเจ้าพูดเอาไว้ในเฉลยธรรมบัญญัติว่า เหตุผลเดียวที่พระเจ้าทำสิ่งสารพัดให้กับพวกเขา ก็คือ พระเจ้าทรงรักพวกเขา

ฉธบ 7:7-8  7 ที่พระเจ้าทรงรักและทรงเลือกท่านทั้งหลายนั้น มิใช่เพราะท่านทั้งหลายมีจำนวนมากกว่าประชาชนชาติอื่น ด้วยว่าในบรรดาชนชาติทั้งหลาย ท่านเป็นจำนวนน้อยที่สุด 8 แต่เพราะพระเจ้าทรงรักท่านทั้งหลาย และพระองค์ทรงรักษาคำปฏิญาณซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านทั้งหลาย พระเจ้าจึงทรงพาท่านทั้งหลายออกมาด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และทรงไถ่ท่านทั้งหลายให้พ้นจากแดนทาส จากหัตถ์ฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์

ฉธบ 23:5 อย่างไรก็ดีพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านมิได้ฟังบาลาอัม แต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเปลี่ยนคำสาปแช่งให้เป็นคำอวยพรท่าน เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงรักท่าน

พี่น้องที่รัก ภาพสัญลักษณ์ของอียิปต์ และคานาอัน เป็นภาพเล็งถึงการดำเนินชีวิตคริสเตียน พระเจ้าในฐานะพ่อของเรา "อับบา" พระองค์ปรารถนาอยากเห็นเรามีความสุข ความสุขของพระองค์ คือ เห็นเรามีความสุข มนุษย์ผู้ซึ่งเป็นคนบาป ยังรู้จักที่จะให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระเจ้าที่บริสุทธิ์ปราศจากบาป จะไม่ปรารถนา ให้ของดีแก่ลูกๆ ของพระองค์หรือ? (มธ 7:11)


พระองค์ได้ทรงสัญญากับเราแล้วว่า เราจะได้ครอบครองหัวเมืองใหญ่โตและดี ที่เราไม่ได้สร้าง เราจะได้เรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งเรามิได้สะสม เราจะได้ดื่มน้ำจากบ่อ ที่เรามิได้ขุด เราจะได้ทานผลองุ่นและมะกอกเทศ ที่เรามิได้ปลูก พระเจ้ายังบอกต่ออีกว่า ไม่เพียงแต่เราจะได้ทาน เราจะได้ทานอย่างอิ่มหนำสำราญ

กุญแจที่จะเปิดเอาพระพร พระสัญญาเหล่านั้นออกมา มีเพียงแค่ดอกเดียว คือ ความเชื่อและความไว้วางใจในความรัก และความดีของพระเจ้าที่มีต่อเรา ถ้าวันนี้ เราเชื่อ เชื่อในความดีของพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้ารักเรา เราจะเริ่มเห็นพระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริงในชีวิตของเรา เพราะพระเจ้าไม่เคยตรัสมุสาเลย สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนกับคนที่เชื่อว่าพระเจ้ารักเขาและเธอ

(โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนหน้า เราจะมาเจาะลึก ความหมายของ "คานาอัน" โดยเราจะเริ่มสำรวจกันตั้งแต่ปฐมกาล Stay Tune)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น