วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Typologies Part 1: Understanding Two Covenants



วันนี้อยากจะเขียนถึงภาพสัญลักษณ์ในพระคัมภีร์ (Typologies) ความเข้าใจภาพสัญลักษณ์เหล่านี้ จะช่วยเราในการตีความหมายของพระคัมภีร์ออกมาได้อย่างถูกต้อง


เริ่มแรก เรามาปูพื้นกันก่อน พระคัมภีร์แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ พระคัมภีร์เดิม (Old Testament) และพระคัมภีร์ใหม่ (New Testament) สิ่งที่เป็นตัวแบ่งพระคัมภีร์ทั้ง 2 ส่วนก็คือ "พันธสัญญา" พระคัมภีร์เดิมเกือบทั้งหมด อยู่ภายใต้พันธสัญญาเดิม (Old Covenant) ในขณะที่พระคัมภีร์ใหม่เกือบทั้งหมด อยู่ภายใต้พันธสัญญาใหม่ (New Covenant)

ผมอยากขยายความเรื่องพระคัมภีร์ใหม่นิดนึง พระคัมภีร์ 4 เล่มแรกของพระคัมภีร์ใหม่ (มัทธิว, มาระโก, ลูกา และยอห์น) ที่เราเรียกว่า พระกิตติคุณ บันทึกเหตุการณ์รอยต่อของ 2 พันธสัญญา กล่าวคือ ช่วงที่พระเยซูมาประสูติ ช่วงนั้นยังถือว่า อยู่ภายใต้ยุคพันธสัญญาเดิม เวลาที่พระเยซูพูดกับนักศาสนา พระองค์ถึงมีการอ้างอิงถึงพระสัญญาเดิมอยู่บ่อยครั้ง พันธสัญญาใหม่ ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

นักศาสนศาสตร์ ถือว่าพันธสัญญาใหม่ เริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่ตอนที่พระเยซูสิ้น และฟื้นคืนพระชนม์ และเริ่มอย่างเป็นทางการ ในวันเพ็นเทคศเต (Pentecost) ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมา วันเพ็นเทคศเต ถือได้ว่าเป็นวันสถาปนาคริสตจักรแรกของโลก เป็นวันที่เหล่าอัครฑูต และผู้เชื่อ เริ่มเทศนาประกาศข่าวดีแห่งพันธสัญญาใหม่อย่างเป็นทางการ

เหตุที่เราต้องปูพื้นให้มีความเข้าใจตรงนี้ก่อน เพื่อที่เราจะสามารถตีความหมายของพระคัมภีร์ได้อย่างถูกต้อง

สิ่งต่อมาที่เราต้องเข้าใจก็คือ หัวใจของแต่ละพันธสัญญา

หัวใจของพันธสัญญาเดิมแห่งธรรมบัญญัติ ก็คือ ทำดีได้รับการอวยพร ทำชั่วโดนแช่งสาบ หรือถ้าจะพูดแบบสุภาษิตไทยไทยก็คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว (ฉธบ 28)

ในขณะที่หัวใจของพันธสัญญาใหม่ ก็คือ พระคุณ พระคุณ คือการที่เราได้รับ ในสิ่งที่เราไม่สมควร ไม่ขึ้นกับการกระทำ และก็ไม่ขึ้นกับความดีของเรา Grace is undeserved, unearned and unmerited favor.

ในยุคพันธสัญญาเดิม พระพรเกิดการจากเชื่อฟัง หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พระพรเป็นผลแห่งการกระทำของเรา ในขณะที่ในพันธสัญญาใหม่ พระพรเกิดจากพระคุณของพระเจ้า ไม่ขึ้นกับการกระทำของเรา

รม 11:6 แต่​ถ้า​เป็น​ทาง​พระ‍คุณ ก็​หา​ได้​เป็น​เพราะ​ทาง​การ​ประ‌พฤติ​ไม่ ถ้า​เป็น​ทาง​การ​ประ‌พฤติ พระ‍คุณ​ก็​จะ​ไม่​เป็น​พระ‍คุณ​อีก​ต่อ‍ไป
Rom 11:6 And if by grace, then it is no longer of works; otherwise grace is no longer grace.But if it is of works, it is no longer grace; otherwise work is no longer work.

ถ้าเราต้องทำอะไร เพื่อให้ได้มาซึ่งอะไร สิ่งนั้น ที่เราได้มา เรียกว่า ผลแห่งการกระทำของเรา ไม่ใช่พระคุณ เพราะพระคุณ คือสิ่งที่เราได้มา แม้เราไม่สมควร ด้วยเหตุนี้ ข่าวประเสริฐ (Gospel) จึงเป็นข่าวดีจริงๆ สำหรับมนุษย์ชาติ พระเยซูเป็นของประทาน ที่พระเจ้าให้กับมนุษย์จริงๆ ไม่มีเงื่อนไขตัวเล็กเท่ามด ผูกติดมาด้วย เหมือนโปรโมชั่นที่เราพบเห็นอยู่บ่อยๆ ในทุกวันนี้

ประการสุดท้าย ที่ผมอยากจะกล่าวถึงในตอนที่ 1 นี้ก็คือ พันธสัญญาเดิม ได้เป็นโฆฆะ และถูกแทนที่ด้วยพันธสัญญาใหม่เรียบร้อยแล้ว 

ฮบ 8:7 เพราะว่าถ้าพันธสัญญาเดิมนั้นไม่มีข้อบกพร่องแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพันธสัญญาที่สองอีก
ฮบ 8:13 เมื่อพระองค์ตรัสถึง "พันธสัญญาใหม่" พระองค์ทรงถือว่า พันธสัญญาเดิมนั้นพ้นสมัยไปแล้ว และสิ่งที่พ้นสมัยและเก่าไปแล้วนั้น ก็พร้อมที่จะเสื่อมสูญไป


พระเจ้าตรัสผ่านพระธรรมฮีบรูว่า พันธสัญญาเดิมแห่งธรรมบัญญัตินั้น มีข้อบกพร่อง ถึงต้องมีพันธสัญญาใหม่ การมีพันธสัญญาใหม่ ก็เพื่อที่จะทดแทนพันธสัญญาเดิม ในวันนี้ พวกเราอยู่ในยุคของพันธสัญญาใหม่ เป็นยุคของข่าวดีอย่างแท้จริง

พี่น้องที่รัก ข่าวประเสริฐที่พวกเราเป็นพยาน และประกาศ เป็นข่าวดีอย่างแท้จริง ที่โลกต้องการ โลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยข่าวร้าย คนในโลก ถึงเต็มไปด้วย โรคเครียด ไม่ก็โรคซึมเศร้า และสารพัดโรค

ยิ่งเรามีความเข้าใจในพันธสัญญาใหม่แห่งพระคุณมากเท่าไหร่ เรายิ่งซาบซึ้งในความรักพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น ส่วนตัวผมอยากขอบคุณพระเจ้ามากถึงมากที่สุด สำหรับพระเยซู และงานที่สำเร็จแล้วของพระองค์ ผมขอจบตอนที่ 1 นี้ ที่ข้อพระคัมภีร์ของอาจารย์เปาโล ขออนุญาติ อ้างอิงฉบับภาษาอังกฤษ New King James Version เพราะความหมายชัดเจนกว่าในภาษาไทย

Rom 2:4 Or do you despise the riches of His goodness, forbearance, and longsuffering, not knowing that the goodness of God leads you to repentance? (NKJ)

ที่คนกลับใจมาหาพระเจ้า ก็เพราะความดีของพระองค์ พระเจ้าดี พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณ พระองค์ไม่เคยรังเกียจเรา ตรงกันข้ามพระเจ้ารักเราเสมอ แม้ในความอ่อนแอ ความไม่สมบูรณ์ และในความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกของเรา หลังจากที่ผมได้เข้าใจเรื่องพระคุณพระเจ้ามากขึ้น ทำให้ผมเข้าใจพระคัมภีร์หลายต่อหลายตอน ที่เมื่อก่อนผมเข้าใจมันด้วยสมอง มาวันนี้ ผมเริ่มเข้าใจพระคัมภีร์ตอนเหล่านั้น ด้วยหัวใจ

 


มาวันนี้ผมไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมหญิงโสเภณี ที่สมควรโดนหินขว้างตาย ถึงได้ซาบซึ้งในความรักพระเยซูมากขนาดนั้น เธอเอาน้ำมันหอมนาระดาบริสุทธิ์ ราคาแพงมากมาชโลมพระบาทของพระเยซู มูลค่าของน้ำหอมนาระดา เทียบได้เท่ากับค่าแรงของคน 1 ปีเต็ม หรือที่ศักเคียส มอบทรัพย์สิ่งของของเขากึ่งหนึ่ง ให้คนอนาถา และชดใช้ค่าเสียหายให้คนที่เขาโกงมา 4 เท่า


ตอนที่พระเยซูโดนตรึงกางเขน สาวกทุกคนยกเว้นยอห์น ได้ทิ้งพระองค์ไปหมด หลังจากที่พระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ และกลับไปหาพวกสาวกที่ห้องชั้นในที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ด้วยความหวาดกลัว ลองอ่านประโยคแรกที่พระเยซูพูดกับเหล่าสาวกซิครับ ประโยคแรกที่พระเยซูน่าจะพูดกับเหล่าสาวก ควรจะเป็นประโยคที่ว่า "จงสารภาพบาปซะ" เพราะพวกเขานอกจากทิ้งพระองค์แล้ว ยังอยู่ภายใต้ความกลัวอีกพระองค์ไม่ได้พูดประโยคนั้น ประโยคที่พระองค์ทรงพูดกับสาวกก็คือ "สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด" (ยน 20:21)

อีกเหตุการณ์หนึ่ง หลังจากที่พระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์แล้ว พระองค์ได้กลับไปตามหาเพื่อนเก่าของพระองค์ซีโมน ที่มีชื่อว่า เปโตร เราต้องไม่ลืมว่า เปโตรในตอนนั้น ได้ปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้ง 3 ครา

มธ 26:69-74   69 ขณะนั้นเปโตรนั่งอยู่ภายนอกบริเวณคฤหาสน์นั้น มีสาวใช้คนหนึ่งมาพูดกับเขาว่า "เจ้าได้อยู่กับเยซูชาวกาลิลีด้วย" 70 แต่เปโตรได้ปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งปวงว่า "ที่เจ้าว่านั้นข้าไม่รู้เรื่อง" 71 เมื่อเปโตรได้ออกไปที่ระเบียง สาวใช้อีกคนหนึ่งแลเห็นจึงบอกคนทั้งปวงที่อยู่ที่นั่นว่า "คนนี้ได้อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย" 72 เปโตรจึงปฏิเสธอีกทั้งปฏิญาณว่า "ข้าไม่รู้จักคนนั้น" 73 อีกสักครู่หนึ่งคนทั้งหลายที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้นก็มาว่าแก่เปโตรว่า "เจ้าเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นแน่แล้ว ด้วยว่าสำเนียงของเจ้าส่อตัวเอง" 74 แล้วเปโตรก็เริ่มสบถและสาบานว่า "ข้าไม่รู้จักคนนั้น" ในทันใดนั้นไก่ก็ขัน

ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ ในฉบับภาษาอังกฤษฉบับ New King James ข้อ 74 พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า เปโตรไม่เพียงแต่สาบานว่า ไม่รู้จักพระเยซู เปโตรยังแช่พระองค์อีกด้วย 

Matt 26:74 Then he began to curse and swear, saying, "I do not know the Man!" And immediately a rooster crowed. (NKJ)

หลังจากที่ปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้งก่อนไก่ขัน 2 หน เปโตรได้กลับไปประกอบอาชีพชาวประมงเหมือนเดิม พี่น้องที่รัก เมื่อพระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากความตาย พระองค์ทรงกลับไปตามหาเปโตร

ถ้าจะให้พูดกันตามเนื้อผ้า ว่ากันตามพันธสัญญาเดิม เมื่อพระเยซูกลับไปหาเปโตร ประโยคเปิดของพระเยซูควรจะเป็น "วัวผู้ แกะผู้ แพะผู้ หรือนกเขา ของเจ้าอยู่ที่ไหน จงถวายเครื่องบูชาไถ่บาป" แต่พระเยซูไม่ได้พูดประโยคนี้ สิ่งที่สาวกทำ บาปแน่นอน พระองค์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิหนำซ้ำพระองค์ยังอวยพรเขาให้จับปลาได้มากมาย และทำอาหารเช้าให้พวกเขารับประทานอีก



ว่ากันตามพันธสัญญาเดิม สาวกต้องถวายเครื่องบูชาไถ่บาป พวกเขาไม่เพียงไม่ต้องถวาย พระเยซูก็ไม่ได้ เรียกร้องให้พวกเขาสารภาพบาปด้วยอีกเช่นกัน ถ้าจะว่าไปแล้ว อย่างน้อย สาวกควรต้องสารภาพบาปต่อพระเยซูก่อน

แสดงว่า ณ จุดเวลาตรงนี้ ต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มาทดแทนพันธสัญญาเดิม เท่าที่ผมพอนึกได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ก็คือ ไม้กางเขนของพระเยซู หลังจากเหตุการณ์ไม้กางเขน และพระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากความตาย ได้เกิดการแลกเปลี่ยนพันธสัญญาเดิมแห่งธรรมบัญญัติ ด้วยพันธสัญญาใหม่แห่งพระคุณพระเจ้า

เหตุผลที่เหล่าสาวก ไม่ต้องมาตีอกชกตัว และสารภาพบาป ก็เพราะว่าความบาปทั้งชีวิตของเขา รวมถึงของพวกเราในวันนี้ ได้ถูกไถ่ และถูกยกโทษหมดสิ้นแล้ว คำว่า "สำเร็จแล้ว" ของพระเยซูมีความหมายลึกซึ้งมากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้หมด ด้วยใจที่เปิดออกของเรา เราจะเริ่มเข้าใจความหมายของมันมากขึ้นทุกๆวัน เราจะได้เข้าใจว่า How finish is the finished work.  How complete is the completed work.


แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้พวกเรา ได้ซาบซึ้งในพระคุณ และความรักของพระเจ้าได้อย่างไร? ว่าแล้วผมนึกถึงเนื้อเพลงเพลงนึง ผมขอจบตอนนี้ที่ 1 นี้ ด้วยเนื้อเพลงนี้นะครับ


พระองค์ดี
1.พระกรุณา ทรงนำข้าสำนึกบาป ความชอบธรรม นำข้าใกล้พระองค์
Your kindness leads me to repentance. Your goodness draws me to Your side

พระเมตตา ทรงเปลี่ยนข้าเหมือนพระองค์ พระองค์ทรง รักข้ามากมาย
Your mercy calls me to be like You. Your favor is my delight

ในทุก ๆวัน ข้าสรรเสริญด้วยเสียงเพลง เทใจข้า นมัสการ
Every day, I'll a- waken my praise And pour out a song from my heart

** พระองค์ดี พระองค์ดี ทรงแสนดี พระเมตตาดำรงนิจนิรันดร์
You are good, You are good You are good, and Your mercy is forever

พระองค์ดี พระองค์ดี (ทรงแสนดี พระเมตตาดำรงนิจนิรันดร์)
You are good, You are good (You are good, and Your mercy is forever)

2.เพราะพระคุณไม่มีสิ้นสุด ความงดงามไม่มีลบเลือน
Your kindness is forever, Your goodness is forever

พระเมตตาทรงดำ รงอยู่ตลอดกาล (x4)
Your mercy is forever, forever(x4)

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเยซู ขอบคุณที่พระองค์ทำงานสำเร็จแล้วบนไม้กางเขน ขอบคุณสำหรับ new covenant ������

    ตอบลบ