ผมเชื่อและปฏิบัติเช่นนี้มาโดยตลอด จนมาวันหนึ่ง พระเจ้าทรงเปิดตาให้ผมเห็น และเข้าใจถึงสัจธรรมในพระคัมภีร์ เรื่องของเครื่องเผาบูชา (The Burnt Offering) จากพระธรรมเลวีนิติบทที่ 1 ซึ่งคือสิ่งที่ วันนี้ผมอยากจะเขียนถึง
นอกเหนือจากเครื่องเผาบูชาประจำวัน (อพย 29:38-46) ที่พระเจ้าให้ปุโรหิตเป็นคนถวาย โดยถวายวันละ 2 รอบ เช้าและเย็น ในฐานะตัวแทนของคนอิสราเอลทั้งชนชาติ ยังมีการถวายเครื่องบูชาอีก 5 อย่างหลักๆ ซึ่งเป็นการถวายในระดับของปัจเจกบุคคล
อย่างแรกที่พระเจ้าทรงพูดถึง คือ เครื่องเผาบูชา (The Burnt Offering)
เรามาอ่านดูข้อพระคัมภีร์ไปด้วยกันนะครับ
ลนต 1:1-2,14 1พระเยโฮวาห์ทรงเรียกโมเสสตรัสกับท่านจากพลับพลาแห่งชุมนุมว่า 2“จงพูดกับคนอิสราเอลและกล่าวแก่เขาว่า เมื่อคนใดในพวกท่านนำเครื่องบูชามาถวายพระเยโฮวาห์ ให้นำสัตว์เลี้ยงอันเป็นเครื่องบูชาของท่านมาจากฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะ 14<<ถ้าผู้ใดจะนำนกมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้า ก็ให้ผู้นั้นนำของบูชาที่เป็นนกเขาหรือนกพิราบรุ่นๆมาถวาย
พระคัมภีร์พูดถึงเรื่องของสัตว์บูชา 5 ชนิด (1) วัว (2) แพะ (3) แกะ (4) นกเขา (5) นกพิราบ
คำถาม: ทำไมต้องแบ่งประเภทสัตว์บูชาเป็นหลายอย่าง? ถ้าเราเป็นคนอิสราเอลในยุคนั้น เราควรนำสัตว์ชนิดใดมาถวายแด่พระเจ้า
ตอบ: จากข้อเขียนของคนยิว พระเจ้าแบ่งสัตว์บูชาเป็น 5 ประเภท เพื่อให้ทุกคน ทุกฐานะสามารถเข้าหาพระเจ้าได้ ถ้าเขาเป็นคนมีฐานะดี ให้เขาถวายสัตว์ใหญ่อย่างวัว คนที่ฐานะปานกลางก็ถวายสัตว์ที่เล็กลงมา ได้แก่ แพะหรือแกะ ถ้าเขาเป็นคนยากจน ก็ให้นำ นกเขา หรือนกพิราบมาถวายพระเจ้า หลักการเบื้องหลังก็คือ ทุกคนสามารถเข้าหาพระเจ้าได้หมด
เลข "5" ในพระคัมภีร์เล็งถึง "พระคุณ" พระคุณแปลว่า พระเจ้าเป็นคนกระทำ ไม่ใช่เรา ไม่เกี่ยวกับความคู่ควร หรือคุณความดีของเรา แต่เป็นคุณความดี พระคุณ และพระกรุณาของพระเจ้าเท่านั้น
ลนต 1:3 ถ้าเครื่องบูชาของเขาเป็นเครื่องเผาบูชามาจากฝูงวัว ก็ให้เขานำสัตว์ตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิ ให้เขานำเครื่องบูชานั้นมาที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุมด้วยความเต็มใจต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
คำถาม: ทำไมต้องนำสัตว์ที่ไม่มีตำหนิมาถวายพระเจ้า
ตอบ: เพราะสัตว์บูชาเหล่านี้ เล็งถึงพระเยซูคริสต์ ที่จะเสด็จมาไถ่บาปให้กับเรา พระองค์ทรงเป็นสัตว์บูชาที่ไร้มลทิน เราสามารถเข้าหาพระเจ้าได้ มิใช่ เพราะเราดี แต่เพราะสัตว์บูชาของเราไร้มลทิน
ยน 1:29 วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย (TBS1971)
2คร 5:21 เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์ (TBS1971)
1ยน 3:5 ท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า พระองค์ได้ทรงปรากฏ เพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และพระองค์ไม่ทรงมีบาปเลย (TBS1971)
ลนต 1:4 ให้เขาเอามือวางบนหัวสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องเผาบูชานั้น และเครื่องเผาบูชานั้นจะเป็นที่ทรงโปรดปรานเพื่อทำการลบมลทินของผู้นั้น
Lev 1:4 Then he shall put his hand on the head of the burnt offering, and it will be accepted on his behalf to make atonement for him.
คำถาม: ทำไมผู้ที่นำสัตว์บูชามาถวายต่อพระเจ้า จึงต้องเอามือวางบนหัวของสัตว์ที่เขานำมา
คำถาม: ทำไมผู้ที่นำสัตว์บูชามาถวายต่อพระเจ้า จึงต้องเอามือวางบนหัวของสัตว์ที่เขานำมา
ตอบ: คำตอบอยู่ในข้อเดียวกัน "เพื่อทำการลบมลทินของผู้นั้น" การวางมือ คือ การถ่ายโอน เมื่อเราวางมือบนหัวของสัตว์บูชา ความบาปที่เรามี ถูกถ่ายโอนไปที่สัตว์บูชา และในเวลาเดียว ความชอบธรรมของสัตว์บูชา (สัตว์ที่ไร้ตำหนิ เล็งถึงความชอบธรรม) ถ่ายโอนกลับมาที่เรา
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราเป็นผู้ชอบธรรม มิใช่โดยการกระทำ หรือคุณความดีของเรา แต่เรารับการถ่ายโอนความชอบธรรมมาจากสัตว์บูชา และนี่ก็คือ ความหมายของพระคัมภีร์ข้อที่ว่า
2คร 5:21 เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์ (TBS1971)
2 Cor 5:21 For He made Him who knew no sin to be sin for us, that we might become the righteousness of God in Him.
พระเจ้าได้ทรงกระทำให้พระองค์ผู้ไม่มีบาป เป็นบาป เพื่อที่เราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์ พระองค์ทรงเป็นบาป มิใช่ เพราะพระองค์ทำบาป ฉันใดฉันนั้น เราเป็นผู้ชอบธรรม มิใช่ เพราะความดีที่เราทำ แต่เรารับเอาความชอบธรรมของพระองค์มาเป็นของเรา และถ่ายโอนความบาปของเราไปที่พระองค์ ที่บนกางเขน พระคริสต์จึงต้องตาย ในฐานะของสัตว์บูชาของพวกเราทุกคน
ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่ได้เป็นผู้ชอบธรรมเพราะการกระทำของเรา ดังนั้น การกระทำใดๆ ของเรา ก็ไม่ทำให้เราเสียสถานะการเป็นผู้ชอบธรรมไป
ดังนั้น ถ้าวันนี้ เราผิดพลาดล้มลง ในเราตระหนักถึงสถานะของเรา ว่าเราเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์ และลุกขึ้นใหม่ เดินต่อไปกับพระเจ้า ยิ่งเราสารภาพสถานะการเป็นผู้ชอบธรรมของเรามากขึ้นเท่าไหร่ การกระทำในชีวิตของเรา ก็จะไปในทิศทางเดียวกัน ความบาป ความอธรรม จะไม่มีอำนาจเหนือเราอีกต่อไป
เราเป็นคนบาป ไม่ใช่เพราะเราทำบาป ตรงกันข้าม เราทำบาป เพราะเราเป็นคนบาป เราเป็นคนบาป เพราะอาดัมแรก ที่สวนเอเดนทำบาป ความบาป ถึงถ่ายโอนลงมาในมนุษย์ชั่วชาติพันธ์
พระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นอาดัมสุดท้าย เพราะพระองค์ทรงไม่มีบาป พระองค์จึงสามารถไถ่บาปให้เราได้ เมื่อเราเชื่อ เชื่อในงานที่สำเร็จแล้วของพระองค์ โดยความเชื่อนั้นเอง เราจึงเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์
ลนต 1:5 แล้วให้เขาฆ่าวัวตัวผู้นั้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ แล้วพวกปุโรหิต คือบุตรชายของอาโรน จะถวายเลือด และเอาเลือดมาประพรมที่แท่นและรอบแท่นบูชา ซึ่งอยู่ตรงประตูพลับพลาแห่งชุมนุม
ลนต 1:5 แล้วให้เขาฆ่าวัวตัวผู้นั้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ แล้วพวกปุโรหิต คือบุตรชายของอาโรน จะถวายเลือด และเอาเลือดมาประพรมที่แท่นและรอบแท่นบูชา ซึ่งอยู่ตรงประตูพลับพลาแห่งชุมนุม
ตอบ: คนที่นำสัตว์บูชามา "เขา" ฆ่าวัวตัวนั้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
"เขา" ตรงนี้ เล็งถึง คนที่นำสัตว์บูชามาถวายต่อพระเจ้า
ทำไมคนที่นำสัตว์บูชามาถึงต้องเป็นฆ่าสัตว์?
เหตุผลก็เพราะว่า เขาจะได้รู้ว่า ที่สัตว์ตัวนั้น ต้องตาย ก็เพราะความบาปของเขา เมื่อเขาฆ่าสัตว์ตัวนั้น โลหิตของสัตว์จะกระเด็นโดนเขา
การอธิษฐานรับเชื่อ ก็คือ การยอมรับว่า เราเป็นคนบาป ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และเรายอมรับการไถ่บาปจากพระเยซูคริสต์ ณ วินาทีนั้น ที่เราอธิษฐาน เราได้กลายเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้าทางพระโลหิตของพระเยซู
ลนต 1:6-9 6และให้เขาถลกหนังเครื่องเผาบูชานั้นออกเสีย แล้วตัดเป็นท่อนๆ 7และบุตรชายของอาโรนผู้เป็นปุโรหิตจะก่อไฟที่แท่น และเรียงฟืนบนไฟ 8และพวกปุโรหิต คือบุตรชายของอาโรน จะวางท่อนเนื้อ หัว และไขมันสัตว์ตามลำดับไว้บนฟืนบนไฟที่แท่นบูชา 9แต่ให้เขาเอาน้ำล้างเครื่องในและขาสัตว์เสีย แล้วปุโรหิตจึงเผาของทั้งหมดบนแท่นเป็นเครื่องเผาบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นที่พอพระทัยแด่พระเยโฮวาห์
ข้อ 6-8 เดี๋ยวผมจะมาอธิบายความหมายในภายหลัง
ข้อ 9 ปุโรหิตจึงเผาของทั้งหมด บนแท่นเป็นเครื่องเผาบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ กลิ่นเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
พี่น้องที่รัก ท่านจำได้ไหมว่า บนไม้กางเขน พระเยซูทรงตรัสว่า "เรากระหายน้ำ"
ยน 19:28 หลังจากนั้น พระเยซูทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้ว เพื่อให้เป็นจริงตามพระธรรม พระองค์จึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ” (TBS1971)
เหตุผลที่พระองค์ทรงตรัสว่า "กระหายน้ำ" ความหมายฝ่ายวิญญาณของประโยคนี้ก็คือ พระองค์ทรงเป็นเครื่องเผาบูชา พระองค์ทรงถูกเผาด้วยไฟแห่งการพิพากษา แทนเรา โทษทัณฑ์ความผิดบาป ของมนุษย์ชั่วชาติพันธุ์ตั้งแต่อาดัม ไปจนถึงที่สุดปลาย ที่จะมีมนุษย์เกิดขึ้นมา ได้รับการลงโทษหมดสิ้นแล้ว บนพระวรกายของพระองค์ที่บนไม้กางเขนนั้น
ดั้งนั้นเอง เมื่อเราเชื่อ เชื่อในงานที่สำเร็จแล้วขององค์พระเยซูบนไม้กางเขน เราจึงได้ผ่านจากความตาย ไปสู่ชีวิต เราจะไม่ต้องพบกับความตายครั้งที่สองอีกเลย ขอบคุณพระเยซู อาเมน
พี่น้องที่รัก จากวันนี้ไป ทุกครั้งที่เราเข้าหาพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการอธิษฐานกับพระเจ้าส่วนตัว การมานมัสการในกลุ่มสามัคคีธรรม หรือการเข้าร่วมนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร เราไม่ต้องสำรวจความผิดบาปในตัวเรา เพราะปุโรหิต ไม่เคยสำรวจคนที่นำสัตว์บูชามา แน่นอนอยู่แล้ว ว่าเขาทำบาป มิเช่นนั้น เขาคงไม่นำสัตว์บูชามาถวายต่อพระเจ้า เป็นการไร้ประโยชน์ที่จะไปสำรวจความผิดบาปของเขา สิ่งที่ปุโรหิต (ตัวแทนของพระเจ้า) สำรวจ คือ สัตว์บูชาที่เรานำมา ไร้มลทินหรือไม่?
ทุกครั้งที่เราเข้าหาพระเจ้า ให้เราตระหนักว่า พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นสัตว์บูชาของเรา ถามตัวเราเองว่า พระองค์ทรงเป็นสัตว์บูชาที่บริสุทธิ์ไร้มลทินหรือไม่? ถ้าใช่ พระเจ้าทรงยอมรับเรา เพราะสัตว์บูชาของเรา มิใช่เพราะคุณความดีของเรา ท่านคือ ผู้ชอบธรรมของพระเจ้าในองค์พระเยซูคริสต์ ตระหนักถึงสถานะที่ท่านเป็น เมื่อท่านเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์แล้ว ท่านอธิษฐานทูลขอสิ่งใดต่อพระเจ้า พระเจ้าจะทรงตอบท่าน สารพัดพระพรของผู้ชอบธรรมที่พระเจ้าสัญญาไว้ เป็นของท่านทั้งหมด
ทุกพระสัญญาของพระเจ้า จะเป็นจริงโดยพระเยซู
2คร 1:20 บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าก็เป็นจริงโดยพระเยซู เพราะเหตุนี้เราจึงพูดว่าเอเมนโดยพระองค์ เป็นที่ถวายเกียรติยศแด่พระเจ้า (ThaiKJV)
2 Cor 1:20 For all the promises of God in Him are Yes, and in Him Amen, to the glory of God through us.
2 Cor 1:20 For all the promises of God in Him are Yes, and in Him Amen, to the glory of God through us.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น