วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566

Shofar: Sound the Ram's Horn

ผมเชื่อว่า พวกเราทุกคน ปรารถนามีชีวิตที่เต็มล้นด้วยพระพร หันไปทางซ้ายก็พระพร หันไปทางขวาก็พระพร ก้มลง เงยขึ้นมา ก็เจอพระพร ใช่ไหมครับ? คำถามทำอย่างไร เราถึงจะเดินอยู่ในชีวิตแห่งพระพรที่ว่านั้นได้ ในบทความวันนี้ เราจะมาถอดความหมายของภาพสัญลักษณ์ในพระคัมภีร์ เพื่อที่เราจะเดินไปในชีวิตแห่งพระพร ที่หลั่งไหลสู่ชีวิตของเรา อย่างไม่ยั้งหยุด ดังเช่น แป้งและน้ำมันในหม้อ ของหญิงม่ายชาวศาเลฟัท ที่ไหลออกมาไม่เคยขาดตลอดช่วงกันดารอาหาร


วันนี้ ผมอยากจะเขียน ถึงการเข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา ก่อนเราจะไปกันต่อ เรามาปรับจูน ความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า แผ่นดินพระสัญญา คืออะไร?

คริสเตียนบางคน ตีความว่า แผ่นดินพระสัญญา คือ ความรอด ไม่ได้ เข้าแผ่นดินพระสัญญา คือไม่รอด? ถ้าเช่นนั้น โมเสสก็ไม่รอด เพราะโมเสสตายที่ภูเขาเนโบ ไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญา (ฉธบ 34)

เรามาอ่านข้อพระคัมภีร์ด้วยกันสักหลายข้อ ว่าพระเจ้าพูดถึงแผ่นดินพระสัญญาว่าอย่างไรบ้าง? และจากสิ่งที่พระเจ้าพูด เราค่อยมาสรุปกันว่า แผ่นดินพระสัญญา คืออะไร?

ฉธบ 6:10-11  10 "เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะพาท่านมาถึงแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ว่าจะให้แก่ท่าน มีหัวเมืองใหญ่โตและดีซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 และเรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งพวกท่านมิได้สะสมไว้ และบ่อขังน้ำที่ท่านมิได้ขุดและสวนองุ่นกับสวนมะกอกเทศ ซึ่งท่านมิได้ปลูกไว้และเมื่อท่านได้รับประทานก็อิ่มหนำ
Deut 6:10-12 10 "So it shall be, when the Lord your God brings you into the land of which He swore to your fathers, to Abraham, Isaac, and Jacob, to give you large and beautiful cities which you did not build, 11 houses full of all good things, which you did not fill, hewn-out wells which you did not dig, vineyards and olive trees which you did not plant — when you have eaten and are full — (NKJV)


ฉธบ 8:7-10  7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงพาท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ดี เป็นแผ่นดินที่มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมากลางหุบเขาและเนินเขา 8 แผ่นดินที่มีข้าวสาลีและข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ต้นทับทิม เป็นแผ่นดินที่มีต้นมะกอกเทศและน้ำผึ้ง 9 เป็นแผ่นดินที่ท่านจะรับประทานอาหารอย่างอุดม ซึ่งท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย เป็นแผ่นดินที่ศิลาเป็นเหล็ก และท่านจะขุดทองแดงได้จากภูเขา 10 ท่านจะได้รับประทานอิ่มหนำ และท่านจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ในเรื่องแผ่นดินอันดีซึ่งพระองค์ประทานแก่ท่านนั้น
Deut 8:7-10 7 For the Lord your God is bringing you into a good land, a land of brooks of water, of fountains and springs, that flow out of valleys and hills; 8 a land of wheat and barley, of vines and fig trees and pomegranates, a land of olive oil and honey; 9 a land in which you will eat bread without scarcity, in which you will lack nothing; a land whose stones are iron and out of whose hills you can dig copper. 10 When you have eaten and are full, then you shall bless the Lord your God for the good land which He has given you. (NKJV)


ยชว 24:13 เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกายบนนั้น และยกเมืองซึ่งเจ้าทั้งหลายไม่ต้องสร้างให้แก่เจ้าและเจ้าทั้งหลายได้เข้าอยู่ เจ้าได้กินผลของสวนองุ่นและสวนมะกอกเทศ ซึ่งเจ้าไม่ต้องปลูก'
Josh 24:13 I have given you a land for which you did not labor, and cities which you did not build, and you dwell in them; you eat of the vineyards and olive groves which you did not plant.' (NKJV)


พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า ด้วยว่ามีพยานมากกว่า 2-3 ปากขึ้นไป ถ้อยคำก็เป็นที่เชื่อถือได้ (2 คร 13:1) พระคัมภีร์ 3 ตอนด้านบน พูดไปในทิศทางและในความหมายเดียวกัน เราจึงสามารถสรุปความหมายของแผ่นดินพระสัญญาออกมาได้ว่า แผ่นดินพระสัญญา เล็งถึง ชีวิตแห่งพระพรเต็มล้น

ท่านจะมีหัวเมืองใหญ่โตและดี ซึ่งท่านไม่ได้สร้าง ได้อยู่ในเรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งท่านไม่ได้สะสม ท่านจะได้ดื่มน้ำจากบ่อ ที่ท่านไม่ได้ขุด ได้ทานองุ่นกับมะกอกเทศ ที่ท่านไม่ได้ปลูก และจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ แผ่นดินพระสัญญา คือแผ่นดินที่ดี มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมาจากหุบเขา และเนินเขา แผ่นดินที่มีข้าวสาลี และข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ทับทิม มะกอกเทศ และน้ำผึ้ง เป็นแผ่นดินที่ท่านจะได้รับประทานอาหารอย่างอุดม ไม่ขาดสิ่งใดเลย เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกาย ให้แก่เจ้า

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เห็นเหมือนที่ผมเห็นไหมครับ ว่าแผ่นดินพระสัญญา เล็งถึงชีวิตแห่งพระพร ไม่ใช่พระพร ประเภทที่เราต้องเหนื่อยยาก จนสายตัวขาด (ยชว 24:13) แต่เป็นพระพร ที่มาอย่างสำเร็จรูป มีคนอื่นทำสำเร็จไว้ แต่เราได้ดื่มด่ำ ได้เพลิดเพลินกับความสำเร็จนั้น It is the finished work of others.

ที่นี้ มาถึงคำถามเงินล้าน? ทำอย่างไร เขาถึงจะเข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา และเดินอยู่ในชีวิตแห่งพระพรเต็มล้นได้?

ภาพสัญลักษณ์ที่เราจะร่วมกันถอดวันนี้ คือภาพสัญลักษณ์ของเมืองเยรีโค?

ทำไมต้องเยรีโค?
ตอบ เพราะเมืองเยรีโค คือเมืองหน้าด่าน เมืองแรก ที่คนอิสราเอลทุกคนที่ต้องการเข้าแผ่นดินพระสัญญา จะต้องผ่าน ถ้าไม่ผ่านด่านเยรีโค ก็ไม่สามารถเข้าสู่แผ่นดินพระสัญญาได้

เช่นเดียวกัน ในวันนี้ คริสเตียนผู้เชื่อทุกคน ที่ปรารถนา จะเข้าแผ่นดินพระสัญญา ดำเนินชีวิตในพระพรเต็มล้น ก็ต้องผ่านด่านเยรีโค

เรามาอ่านพระคัมภีร์ และถอดความหมายภาพสัญลักษณ์ร่วมกันนะครับ ว่าคนอิสราเอล ชนะศึกเยรีโคได้อย่างไร? และความหมายของภาพสัญลักษณ์เหล่านั้น คืออะไร?

เมือง​เย​รี​โค​ล่ม​จม
ยชว 6:1-20 1 เพราะ​เหตุ​คน​อิสราเอล​เมือง​เย​รี​โค​ต้อง​ถูก​ปิด​ไว้​ไม่​มี​คน​เข้า​ออก​ได้​เลย​ 2 ​พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​โยชูวา​ว่า “ดูแน่ะ​เรา​ได้​มอบ​เมือง​เย​รี​โค​ไว้​ใน​มือ​เจ้า​แล้ว ทั้ง​กษัตริย์​และ​ทแกล้ว​ทหาร​ 3 เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​เดินขบวน​รอบ​เมือง​ คือ​ให้​บรรดา​ทหาร​ไป​รอบ​เมือง​ครั้ง​หนึ่ง เจ้า​จง​ทำ​เช่นนี้​หก​วัน​ 4 ให้​ปุโรหิต​เจ็ด​คน​ถือ​เขาแกะ​เจ็ด​คัน​นำหน้า​หีบ และ​ใน​วันที่​เจ็ด​นั้น​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​เดิน​รอบ​เมือง​เจ็ด​ครั้ง ให้​ปุโรหิต​เป่า​เขาแกะ​ไป​ด้วย​ 5 และ​เมื่อ​เขา​เป่า​เขาแกะ​เป็น​เสียง​ยาว พอ​เจ้า​ได้​ยิน​เสียง​เขาแกะ​นั้น ​ก็​ให้​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​โห่​ร้อง​ขึ้น​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง กำแพง​เมือง​นั้น​ก็​จะ​พัง​ลง​ราบ และ​ประชาชน​จะ​ขึ้น​ไป ทุก​คน​ต่าง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ตน” 6 ฝ่าย​โยชูวา​บุตร​นูน​จึง​เรียก​ปุโรหิต​มา​สั่ง​ว่า “จง​ยก​หีบพันธสัญญา​ขึ้น​หาม​ไป ให้​ปุโรหิต​เจ็ด​คน​ถือ​แตร​เขาแกะ​เจ็ด​คัน​เดิน​นำหน้า​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า” 7 และ​ท่าน​สั่ง​ประชาชน​ว่า “จง​ออก​เดิน​รอบ​เมือง​นั้น ให้​ทหาร​ถือ​อาวุธ​เดิน​ข้างหน้า​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า” 8 เมื่อ​โยชูวา​บัญชา​แก่​ประชาชน​แล้ว ปุโรหิต​เจ็ด​คน​ที่​ถือ​เขาแกะ​เจ็ด​คัน​ต่อ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​ก็​เดิน​ข้างหน้า​เป่า​เขาแกะ​ไป และ​มี​หีบพันธสัญญา​แห่ง​พระ​เจ้า​ตาม​เขา​มา​ 9 และ​ทหาร​ถือ​อาวุธ​เดิน​อยู่​หน้า​ปุโรหิต​ผู้​เป่า​เขาแกะ และ​กอง​ระวัง​หลัง​ก็​เดิน​ตาม​หีบ​ฝ่าย​เขาแกะ​นั้น​ก็​เป่า​อยู่​เรื่อยไป​ 10 แต่​โยชูวา​บัญชา​ประชาชน​ว่า “ท่าน​อย่า​โห่​ร้อง อย่า​ให้​ใคร​ได้​ยิน​เสียง​ของ​ท่าน อย่า​ให้​ถ้อยคำ​หลุด​ออก​จาก​ปาก​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เลย จนกว่า​จะ​ถึง​วันที่​ข้าพเจ้า​บอก​ให้​ท่าน​โห่​ร้อง ท่าน​จึง​โห่​ร้อง​กัน” 11 ท่าน​ได้​กระทำ​ให้​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า​เวียน​รอบ​เมือง​ดังนี้​แหละ คือ​เวียน​รอบ​หนึ่ง​เที่ยว​เขา​ก็​กลับ​เข้า​ค่าย นอน​ค้าง​คืน​อยู่​ใน​ค่าย​นั้น 12 โยชูวา​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้า​และ​ปุโรหิต​ก็​ยก​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า​ขึ้น​หาม​ 13 และ​ปุโรหิต​เจ็ด​คน​ถือ​เขาแกะ​เจ็ด​คัน​เดินหน้า​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า​เป่า​เขาแกะ​เรื่อยไป และ​ทหาร​ถือ​อาวุธ​ก็​เดิน​อยู่​ข้างหน้า​เขา และ​กอง​ระวัง​หลัง​ก็​เดิน​อยู่​ข้าง​หลัง​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า ฝ่าย​เขาแกะ​ก็​เป่า​เรื่อยไป​ 14 และ​ใน​วันที่​สอง​เขา​ก็​เดิน​รอบ​เมือง​นั้น​ครั้ง​หนึ่ง​แล้ว​กลับ​เข้า​ค่าย​อีก เขา​ทำ​เช่นนี้​อยู่​หก​วัน 15 ​ใน​วันที่​เจ็ด เขา​ลุก​ขึ้น​แต่​เช้าตรู่ เดิน​กระบวน​รอบ​เมือง​อย่าง​เคย​เจ็ด​ครั้ง เฉพาะ​วัน​เดียว​นั้น​เขา​ได้​เดิน​กระบวน​รอบ​เมือง​เจ็ด​ครั้ง​ 16 ​ใน​ครั้ง​ที่​เจ็ด เมื่อ​ปุโรหิต​เป่า​เขาแกะ โย​ชู​วา​บอก​แก่​ประชาชน​ว่า “จง​โห่​ร้อง​ขึ้น​เถิด เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​มอบ​เมือง​ให้แก่​ท่าน​แล้ว​ 17 ​เมือง​นั้น​และ​สารพัด​ใน​เมือง​นั้น​เป็น​ของ​ที่​ต้อง​ทำลาย​ถวาย​แด่​พระ​เจ้า เว้น​แต่​ราหับ​หญิง​โสเภณี​กับ​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ใน​เรือน​ของ​นาง​จะ​รอด​ชีวิต เพราะ​ว่า​นาง​ได้​ซ่อน​ผู้​สื่อสาร​ที่​พวก​เรา​ใช้​ไป​ 18 แต่​ส่วน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ห่างไกล​จาก​ของ​ที่​ต้อง​ทำลาย​ถวาย​นั้น เกรง​ว่า​เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ถวาย​สิ่ง​เหล่า​นั้น​แล้ว ท่าน​จะ​เ​ก็​บ​สิ่ง​ที่​ถวาย​แล้ว​นั้น​ไว้​บ้าง ​ก็​จะ​ทำ​ให้​ค่าย​ของ​คน​อิสราเอล​เป็น​สิ่ง​ที่​ต้อง​ทำลาย และ​นำ​ความ​ทุกข์​ลำบาก​มา​สู่​ 19 แต่​บรรดา​เงิน​และ​ทอง และ​เครื่องใช้​ที่​ทำ​ด้วย​ทอง​สัมฤทธิ์ และ​เหล็ก​เป็น​ของ​ถวาย​แด่​พระ​เจ้า ให้​นำเข้า​ไป​ไว้​ใน​คลัง​ของ​พระ​เจ้า” 20 เหตุ​ฉะนั้น​ประชาชน​ก็​โห่​ร้อง และ​แตร​ก็​เป่า พอ​ประชาชน​ได้​ยิน​เสียง​เขาแกะ เขา​ก็​โห่​ร้อง​ดัง และ​กำแพง​ก็​พัง​ลง​ราบ ประชาชน​จึง​ขึ้น​ไป​ใน​เมือง​ ทุก​คน​ต่าง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ตน​และ​เข้า​ยึด​เมือง​นั้น​ (TBS1971)


พระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอล เดินรอบเมืองเยรีโค วันละรอบ 6 วัน โดยให้ปุโรหิตแบกหีบพันธสัญญาเดินนำหน้า และในวันที่ 7 ให้เดิน 7 รอบ โดยระหว่างที่เดินนั้น ให้ปุโรหิตทั้ง 7 คนเป่าเขาแกะไปเรื่อยๆ พอครบ รอบที่ 7 ให้ปุโรหิต 7 คน เป่าแตรที่ทำจากเขาแกะ 7 อันพร้อมกัน เป็นเสียงยาว และให้คนอิสราเอลทั้งหมดโห่ร้องพร้อมกันด้วยเสียงดัง

ยชว 6:20 เหตุ​ฉะนั้น​ประชาชน​ก็​โห่​ร้อง และ​แตร​ก็​เป่า พอ​ประชาชน​ได้​ยิน​เสียง​เขาแกะ เขา​ก็​โห่​ร้อง​ดัง และ​กำแพง​ก็​พัง​ลง​ราบ ประชาชน​จึง​ขึ้น​ไป​ใน​เมือง​ ทุก​คน​ต่าง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ตน​และ​เข้า​ยึด​เมือง​นั้น​ (TBS1971)
Josh 6:20 So the people shouted when the priests blew the trumpets. And it happened when the people heard the sound of the trumpet, and the people shouted with a great shout, that the wall fell down flat. Then the people went up into the city, every man straight before him, and they took the city. (NKJV)

ปุโรหิตเป่าแตรที่ทำจากเขาแกะ 7 อัน พร้อมกัน เมื่อประชาชนคนอิสราเอลได้ยินเสียงเขาแกะ พวกเขาก็โห่ร้อง และกำแพงก็พังราบลง อย่างง่ายดาย


เขาแกะ ได้มาจากแกะที่ตายแล้ว คนอิสราเอลจะฆ่าแกะก่อน จึงค่อยตัดเขาแกะออกมาทำเป็นแตร

- แกะเล็งถึงพระเยซูคริสต์ (ยน 1:36) Jesus is the Lamb of God
- เขาแกะ เล็งถึง การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู บนไม้กางเขน
- การเป่าเขาะแกะ เล็งถึง การประกาศ (Proclaim) ถึงงานที่สำเร็จแล้วขององค์พระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน ก่อนพระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงตรัสว่า "สำเร็จแล้ว" (ยน 19:30)
- เสียงโห่ร้องของประชาชน เล็งถึง การประกาศชัยชนะ ของพระเยซู บนไม้กางเขน

พี่น้องที่รัก นี่คือ ความหมายฝ่ายวิญญาณของภาพสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่

วันนี้ ถ้าท่าน อยากเข้าแผ่นดินพระสัญญา ดำเนินชีวิตแห่งพระพรเต็มล้น สิ่งที่ท่านต้องทำ คือ ตระหนักว่า งานทุกอย่างสำเร็จแล้ว ทุกสิ่งที่ท่านต้องการในชีวิตนี้ สำเร็จหมดแล้ว ตั้งแต่พระเจ้าทรงวางรากสร้างโลก (ฮบ 4:3) และประกาศงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซู ใส่อุปสรรค ปัญหา และความท้าทายที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ (กำแพงเยรีโค) และกำแพงแห่งปัญหา จะพังทลายลงต่อหน้าต่อตาท่าน เฉกเช่นเดียวกับ กำแพงเมืองเยรีโค Proclaim the finished work of Christ to your problems, and your problems will crumble away.


ในปี 1950 นักโบราณคดีชื่อ แคทลีน เคนยอน (Kathleen Kenyon) ได้ศึกษา และค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า กำแพงเมืองเยรีโค ทั้งใหญ่ และทั้งหนา รถม้า (Chariot) สามารถขึ้นไปวิ่งบนกำแพงเมืองได้เลย

วันนี้ ไม่ว่าอุปสรรคปัญหาที่ท่านกำลังเผชิญ มันจะหนักหนา สาหัส และใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์ การเงิน หรืออะไรก็ตาม เมื่อท่าน Proclaim the finished work of Christ และโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง อุปสรรคปัญหาเหล่านั้น จะไม่สามารถต้านทานพลังอำนาจแห่งงานที่สำเร็จแล้วขององค์พระเยซูคริสต์ได้

พี่น้องรู้ไหมครับว่า ทำไม 6 วันแรก ที่คนอิสราเอลเดินรอบกำแพง วันละ 1 รอบ พระเจ้าถึงสั่งไม่ให้พวกเขาพูดอะไร? เหตุผลก็เพราะว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตอนที่โมเสสส่งผู้สอดแนม 12 คน เข้าไปสอดแนมในคานาอัน 10 ใน 12 คน พูดแง่ลบ ขยายปัญหาให้มันใหญ่โต จนเป็นเหตุให้คนอิสราเอล ใจฝ่อ จนที่สุด คนอิสราเอลรุ่นแรก ที่มีอายุ เกิน 20 ปีขึ้นไป ไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญา เหลือเพียงแค่ โยชูวา และคาเลบ เพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้เข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา

ตลอดเวลา 6 วันที่เราเดินรอบกำแพงเมือง เราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ และความน่าเกรงขาม ของกำแพงเมืองเยรีโค (เล็งถึงอุปสรรคปัญหา) แบบ 360 องศา พระเจ้าให้เราเห็น แต่พระองค์ไม่ให้เราพูด หรือส่งเสียงอะไร

ความหมายก็คือ ให้พวกเรา ไม่ขยายปัญหาให้มันใหญ่เกินจริง ด้วยการมองที่ปัญหา คิดและพูดแง่ลบ แต่ให้เรามองไปที่พระเจ้า แถวหน้าของขบวน คือ ปุโรหิต 7 คนที่ถือแตรเขาแกะ ตามด้วยขบวนปุโรหิตแบกหีบพันธสัญญา หีบพันธสัญญาเล็งถึงพระเยซูคริสต์ เขาแกะเล็งถึง งานที่สำเร็จแล้วของพระองค์

กำแพงเยรีโค ที่ท่านกำลังเผชิญ จะใหญ่และน่าเกรงกลัวแค่ไหนก็ตาม มันจะพังทลายลงอย่างง่ายดาย เมื่อท่านมองไปที่งานที่สำเร็จแล้วของพระเยซูคริสต์ และโห่ร้องประกาศชัยชนะของพระองค์เหนือปัญหาของท่าน

Proclaim His finished work over your problems and challenges, and watch them crumble away as you shout in celebration of Jesus’ victory, for He has overcome the world. (John 16:33)

To Jesus be all the glory. Amen.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น