ผมเชื่อว่า พวกเราทุกคน ปรารถนามีชีวิตที่เต็มล้นด้วยพระพร หันไปทางซ้ายก็พระพร หันไปทางขวาก็พระพร ก้มลง เงยขึ้นมา ก็เจอพระพร ใช่ไหมครับ? คำถามทำอย่างไร เราถึงจะเดินอยู่ในชีวิตแห่งพระพรที่ว่านั้นได้ ในบทความวันนี้ เราจะมาถอดความหมายของภาพสัญลักษณ์ในพระคัมภีร์ เพื่อที่เราจะเดินไปในชีวิตแห่งพระพร ที่หลั่งไหลสู่ชีวิตของเรา อย่างไม่ยั้งหยุด ดังเช่น แป้งและน้ำมันในหม้อ ของหญิงม่ายชาวศาเลฟัท ที่ไหลออกมาไม่เคยขาดตลอดช่วงกันดารอาหาร
วันนี้ ผมอยากจะเขียน ถึงการเข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา ก่อนเราจะไปกันต่อ เรามาปรับจูน ความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า แผ่นดินพระสัญญา คืออะไร?
คริสเตียนบางคน ตีความว่า แผ่นดินพระสัญญา คือ ความรอด ไม่ได้ เข้าแผ่นดินพระสัญญา คือไม่รอด? ถ้าเช่นนั้น โมเสสก็ไม่รอด เพราะโมเสสตายที่ภูเขาเนโบ ไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญา (ฉธบ 34)
เรามาอ่านข้อพระคัมภีร์ด้วยกันสักหลายข้อ ว่าพระเจ้าพูดถึงแผ่นดินพระสัญญาว่าอย่างไรบ้าง? และจากสิ่งที่พระเจ้าพูด เราค่อยมาสรุปกันว่า แผ่นดินพระสัญญา คืออะไร?
ฉธบ 6:10-11 10 "เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะพาท่านมาถึงแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ว่าจะให้แก่ท่าน มีหัวเมืองใหญ่โตและดีซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 และเรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งพวกท่านมิได้สะสมไว้ และบ่อขังน้ำที่ท่านมิได้ขุดและสวนองุ่นกับสวนมะกอกเทศ ซึ่งท่านมิได้ปลูกไว้และเมื่อท่านได้รับประทานก็อิ่มหนำ
Deut 6:10-12 10 "So it shall be, when the Lord your God brings you into the land of which He swore to your fathers, to Abraham, Isaac, and Jacob, to give you large and beautiful cities which you did not build, 11 houses full of all good things, which you did not fill, hewn-out wells which you did not dig, vineyards and olive trees which you did not plant — when you have eaten and are full — (NKJV)
ฉธบ 8:7-10 7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงพาท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ดี เป็นแผ่นดินที่มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมากลางหุบเขาและเนินเขา 8 แผ่นดินที่มีข้าวสาลีและข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ต้นทับทิม เป็นแผ่นดินที่มีต้นมะกอกเทศและน้ำผึ้ง 9 เป็นแผ่นดินที่ท่านจะรับประทานอาหารอย่างอุดม ซึ่งท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย เป็นแผ่นดินที่ศิลาเป็นเหล็ก และท่านจะขุดทองแดงได้จากภูเขา 10 ท่านจะได้รับประทานอิ่มหนำ และท่านจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ในเรื่องแผ่นดินอันดีซึ่งพระองค์ประทานแก่ท่านนั้น
ฉธบ 8:7-10 7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงพาท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ดี เป็นแผ่นดินที่มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมากลางหุบเขาและเนินเขา 8 แผ่นดินที่มีข้าวสาลีและข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ต้นทับทิม เป็นแผ่นดินที่มีต้นมะกอกเทศและน้ำผึ้ง 9 เป็นแผ่นดินที่ท่านจะรับประทานอาหารอย่างอุดม ซึ่งท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย เป็นแผ่นดินที่ศิลาเป็นเหล็ก และท่านจะขุดทองแดงได้จากภูเขา 10 ท่านจะได้รับประทานอิ่มหนำ และท่านจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ในเรื่องแผ่นดินอันดีซึ่งพระองค์ประทานแก่ท่านนั้น
Deut 8:7-10 7 For the Lord your God is bringing you into a good land, a land of brooks of water, of fountains and springs, that flow out of valleys and hills; 8 a land of wheat and barley, of vines and fig trees and pomegranates, a land of olive oil and honey; 9 a land in which you will eat bread without scarcity, in which you will lack nothing; a land whose stones are iron and out of whose hills you can dig copper. 10 When you have eaten and are full, then you shall bless the Lord your God for the good land which He has given you. (NKJV)
ยชว 24:13 เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกายบนนั้น และยกเมืองซึ่งเจ้าทั้งหลายไม่ต้องสร้างให้แก่เจ้าและเจ้าทั้งหลายได้เข้าอยู่ เจ้าได้กินผลของสวนองุ่นและสวนมะกอกเทศ ซึ่งเจ้าไม่ต้องปลูก'
Josh 24:13 I have given you a land for which you did not labor, and cities which you did not build, and you dwell in them; you eat of the vineyards and olive groves which you did not plant.' (NKJV)ยชว 24:13 เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกายบนนั้น และยกเมืองซึ่งเจ้าทั้งหลายไม่ต้องสร้างให้แก่เจ้าและเจ้าทั้งหลายได้เข้าอยู่ เจ้าได้กินผลของสวนองุ่นและสวนมะกอกเทศ ซึ่งเจ้าไม่ต้องปลูก'
ท่านจะมีหัวเมืองใหญ่โตและดี ซึ่งท่านไม่ได้สร้าง ได้อยู่ในเรือนที่มีของดีเต็ม ซึ่งท่านไม่ได้สะสม ท่านจะได้ดื่มน้ำจากบ่อ ที่ท่านไม่ได้ขุด ได้ทานองุ่นกับมะกอกเทศ ที่ท่านไม่ได้ปลูก และจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ แผ่นดินพระสัญญา คือแผ่นดินที่ดี มีธารน้ำ น้ำพุ และน้ำบาดาลไหลออกมาจากหุบเขา และเนินเขา แผ่นดินที่มีข้าวสาลี และข้าวบารลี เถาองุ่น มะเดื่อ ทับทิม มะกอกเทศ และน้ำผึ้ง เป็นแผ่นดินที่ท่านจะได้รับประทานอาหารอย่างอุดม ไม่ขาดสิ่งใดเลย เราได้ยกแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่ได้เหนื่อยกาย ให้แก่เจ้า
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เห็นเหมือนที่ผมเห็นไหมครับ ว่าแผ่นดินพระสัญญา เล็งถึงชีวิตแห่งพระพร ไม่ใช่พระพร ประเภทที่เราต้องเหนื่อยยาก จนสายตัวขาด (ยชว 24:13) แต่เป็นพระพร ที่มาอย่างสำเร็จรูป มีคนอื่นทำสำเร็จไว้ แต่เราได้ดื่มด่ำ ได้เพลิดเพลินกับความสำเร็จนั้น It is the finished work of others.
ที่นี้ มาถึงคำถามเงินล้าน? ทำอย่างไร เขาถึงจะเข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา และเดินอยู่ในชีวิตแห่งพระพรเต็มล้นได้?
ภาพสัญลักษณ์ที่เราจะร่วมกันถอดวันนี้ คือภาพสัญลักษณ์ของเมืองเยรีโค?
ทำไมต้องเยรีโค?
ตอบ เพราะเมืองเยรีโค คือเมืองหน้าด่าน เมืองแรก ที่คนอิสราเอลทุกคนที่ต้องการเข้าแผ่นดินพระสัญญา จะต้องผ่าน ถ้าไม่ผ่านด่านเยรีโค ก็ไม่สามารถเข้าสู่แผ่นดินพระสัญญาได้
เช่นเดียวกัน ในวันนี้ คริสเตียนผู้เชื่อทุกคน ที่ปรารถนา จะเข้าแผ่นดินพระสัญญา ดำเนินชีวิตในพระพรเต็มล้น ก็ต้องผ่านด่านเยรีโค
เรามาอ่านพระคัมภีร์ และถอดความหมายภาพสัญลักษณ์ร่วมกันนะครับ ว่าคนอิสราเอล ชนะศึกเยรีโคได้อย่างไร? และความหมายของภาพสัญลักษณ์เหล่านั้น คืออะไร?
เมืองเยรีโคล่มจม
ยชว 6:1-20 1 เพราะเหตุคนอิสราเอลเมืองเยรีโคต้องถูกปิดไว้ไม่มีคนเข้าออกได้เลย 2 พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “ดูแน่ะเราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และทแกล้วทหาร 3 เจ้าทั้งหลายจงเดินขบวนรอบเมือง คือให้บรรดาทหารไปรอบเมืองครั้งหนึ่ง เจ้าจงทำเช่นนี้หกวัน 4 ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบ และในวันที่เจ็ดนั้นเจ้าทั้งหลายจงเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้ปุโรหิตเป่าเขาแกะไปด้วย 5 และเมื่อเขาเป่าเขาแกะเป็นเสียงยาว พอเจ้าได้ยินเสียงเขาแกะนั้น ก็ให้ประชาชนทั้งปวงโห่ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง กำแพงเมืองนั้นก็จะพังลงราบ และประชาชนจะขึ้นไป ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตน” 6 ฝ่ายโยชูวาบุตรนูนจึงเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า “จงยกหีบพันธสัญญาขึ้นหามไป ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเดินนำหน้าหีบแห่งพระเจ้า” 7 และท่านสั่งประชาชนว่า “จงออกเดินรอบเมืองนั้น ให้ทหารถืออาวุธเดินข้างหน้าหีบแห่งพระเจ้า” 8 เมื่อโยชูวาบัญชาแก่ประชาชนแล้ว ปุโรหิตเจ็ดคนที่ถือเขาแกะเจ็ดคันต่อพระพักตร์พระเจ้าก็เดินข้างหน้าเป่าเขาแกะไป และมีหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าตามเขามา 9 และทหารถืออาวุธเดินอยู่หน้าปุโรหิตผู้เป่าเขาแกะ และกองระวังหลังก็เดินตามหีบฝ่ายเขาแกะนั้นก็เป่าอยู่เรื่อยไป 10 แต่โยชูวาบัญชาประชาชนว่า “ท่านอย่าโห่ร้อง อย่าให้ใครได้ยินเสียงของท่าน อย่าให้ถ้อยคำหลุดออกจากปากของท่านทั้งหลายเลย จนกว่าจะถึงวันที่ข้าพเจ้าบอกให้ท่านโห่ร้อง ท่านจึงโห่ร้องกัน” 11 ท่านได้กระทำให้หีบแห่งพระเจ้าเวียนรอบเมืองดังนี้แหละ คือเวียนรอบหนึ่งเที่ยวเขาก็กลับเข้าค่าย นอนค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น 12 โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าและปุโรหิตก็ยกหีบแห่งพระเจ้าขึ้นหาม 13 และปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันเดินหน้าหีบแห่งพระเจ้าเป่าเขาแกะเรื่อยไป และทหารถืออาวุธก็เดินอยู่ข้างหน้าเขา และกองระวังหลังก็เดินอยู่ข้างหลังหีบแห่งพระเจ้า ฝ่ายเขาแกะก็เป่าเรื่อยไป 14 และในวันที่สองเขาก็เดินรอบเมืองนั้นครั้งหนึ่งแล้วกลับเข้าค่ายอีก เขาทำเช่นนี้อยู่หกวัน 15 ในวันที่เจ็ด เขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เดินกระบวนรอบเมืองอย่างเคยเจ็ดครั้ง เฉพาะวันเดียวนั้นเขาได้เดินกระบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง 16 ในครั้งที่เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าเขาแกะ โยชูวาบอกแก่ประชาชนว่า “จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะพระเจ้าทรงมอบเมืองให้แก่ท่านแล้ว 17 เมืองนั้นและสารพัดในเมืองนั้นเป็นของที่ต้องทำลายถวายแด่พระเจ้า เว้นแต่ราหับหญิงโสเภณีกับคนทั้งหลายที่อยู่ในเรือนของนางจะรอดชีวิต เพราะว่านางได้ซ่อนผู้สื่อสารที่พวกเราใช้ไป 18 แต่ส่วนท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากของที่ต้องทำลายถวายนั้น เกรงว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้ถวายสิ่งเหล่านั้นแล้ว ท่านจะเก็บสิ่งที่ถวายแล้วนั้นไว้บ้าง ก็จะทำให้ค่ายของคนอิสราเอลเป็นสิ่งที่ต้องทำลาย และนำความทุกข์ลำบากมาสู่ 19 แต่บรรดาเงินและทอง และเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และเหล็กเป็นของถวายแด่พระเจ้า ให้นำเข้าไปไว้ในคลังของพระเจ้า” 20 เหตุฉะนั้นประชาชนก็โห่ร้อง และแตรก็เป่า พอประชาชนได้ยินเสียงเขาแกะ เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น (TBS1971)
พระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอล เดินรอบเมืองเยรีโค วันละรอบ 6 วัน โดยให้ปุโรหิตแบกหีบพันธสัญญาเดินนำหน้า และในวันที่ 7 ให้เดิน 7 รอบ โดยระหว่างที่เดินนั้น ให้ปุโรหิตทั้ง 7 คนเป่าเขาแกะไปเรื่อยๆ พอครบ รอบที่ 7 ให้ปุโรหิต 7 คน เป่าแตรที่ทำจากเขาแกะ 7 อันพร้อมกัน เป็นเสียงยาว และให้คนอิสราเอลทั้งหมดโห่ร้องพร้อมกันด้วยเสียงดัง
ยชว 6:20 เหตุฉะนั้นประชาชนก็โห่ร้อง และแตรก็เป่า พอประชาชนได้ยินเสียงเขาแกะ เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น (TBS1971)
Josh 6:20 So the people shouted when the priests blew the trumpets. And it happened when the people heard the sound of the trumpet, and the people shouted with a great shout, that the wall fell down flat. Then the people went up into the city, every man straight before him, and they took the city. (NKJV)
ปุโรหิตเป่าแตรที่ทำจากเขาแกะ 7 อัน พร้อมกัน เมื่อประชาชนคนอิสราเอลได้ยินเสียงเขาแกะ พวกเขาก็โห่ร้อง และกำแพงก็พังราบลง อย่างง่ายดาย
ปุโรหิตเป่าแตรที่ทำจากเขาแกะ 7 อัน พร้อมกัน เมื่อประชาชนคนอิสราเอลได้ยินเสียงเขาแกะ พวกเขาก็โห่ร้อง และกำแพงก็พังราบลง อย่างง่ายดาย
- แกะเล็งถึงพระเยซูคริสต์ (ยน 1:36) Jesus is the Lamb of God
- เขาแกะ เล็งถึง การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู บนไม้กางเขน
- การเป่าเขาะแกะ เล็งถึง การประกาศ (Proclaim) ถึงงานที่สำเร็จแล้วขององค์พระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน ก่อนพระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงตรัสว่า "สำเร็จแล้ว" (ยน 19:30)
- เสียงโห่ร้องของประชาชน เล็งถึง การประกาศชัยชนะ ของพระเยซู บนไม้กางเขน
- เสียงโห่ร้องของประชาชน เล็งถึง การประกาศชัยชนะ ของพระเยซู บนไม้กางเขน
พี่น้องที่รัก นี่คือ ความหมายฝ่ายวิญญาณของภาพสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่
วันนี้ ถ้าท่าน อยากเข้าแผ่นดินพระสัญญา ดำเนินชีวิตแห่งพระพรเต็มล้น สิ่งที่ท่านต้องทำ คือ ตระหนักว่า งานทุกอย่างสำเร็จแล้ว ทุกสิ่งที่ท่านต้องการในชีวิตนี้ สำเร็จหมดแล้ว ตั้งแต่พระเจ้าทรงวางรากสร้างโลก (ฮบ 4:3) และประกาศงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซู ใส่อุปสรรค ปัญหา และความท้าทายที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ (กำแพงเยรีโค) และกำแพงแห่งปัญหา จะพังทลายลงต่อหน้าต่อตาท่าน เฉกเช่นเดียวกับ กำแพงเมืองเยรีโค Proclaim the finished work of Christ to your problems, and your problems will crumble away.
ในปี 1950 นักโบราณคดีชื่อ แคทลีน เคนยอน (Kathleen Kenyon) ได้ศึกษา และค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า กำแพงเมืองเยรีโค ทั้งใหญ่ และทั้งหนา รถม้า (Chariot) สามารถขึ้นไปวิ่งบนกำแพงเมืองได้เลย
วันนี้ ไม่ว่าอุปสรรคปัญหาที่ท่านกำลังเผชิญ มันจะหนักหนา สาหัส และใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์ การเงิน หรืออะไรก็ตาม เมื่อท่าน Proclaim the finished work of Christ และโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง อุปสรรคปัญหาเหล่านั้น จะไม่สามารถต้านทานพลังอำนาจแห่งงานที่สำเร็จแล้วขององค์พระเยซูคริสต์ได้
พี่น้องรู้ไหมครับว่า ทำไม 6 วันแรก ที่คนอิสราเอลเดินรอบกำแพง วันละ 1 รอบ พระเจ้าถึงสั่งไม่ให้พวกเขาพูดอะไร? เหตุผลก็เพราะว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตอนที่โมเสสส่งผู้สอดแนม 12 คน เข้าไปสอดแนมในคานาอัน 10 ใน 12 คน พูดแง่ลบ ขยายปัญหาให้มันใหญ่โต จนเป็นเหตุให้คนอิสราเอล ใจฝ่อ จนที่สุด คนอิสราเอลรุ่นแรก ที่มีอายุ เกิน 20 ปีขึ้นไป ไม่ได้เข้าแผ่นดินพระสัญญา เหลือเพียงแค่ โยชูวา และคาเลบ เพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้เข้าครอบครองแผ่นดินพระสัญญา
ตลอดเวลา 6 วันที่เราเดินรอบกำแพงเมือง เราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ และความน่าเกรงขาม ของกำแพงเมืองเยรีโค (เล็งถึงอุปสรรคปัญหา) แบบ 360 องศา พระเจ้าให้เราเห็น แต่พระองค์ไม่ให้เราพูด หรือส่งเสียงอะไร
ความหมายก็คือ ให้พวกเรา ไม่ขยายปัญหาให้มันใหญ่เกินจริง ด้วยการมองที่ปัญหา คิดและพูดแง่ลบ แต่ให้เรามองไปที่พระเจ้า แถวหน้าของขบวน คือ ปุโรหิต 7 คนที่ถือแตรเขาแกะ ตามด้วยขบวนปุโรหิตแบกหีบพันธสัญญา หีบพันธสัญญาเล็งถึงพระเยซูคริสต์ เขาแกะเล็งถึง งานที่สำเร็จแล้วของพระองค์
กำแพงเยรีโค ที่ท่านกำลังเผชิญ จะใหญ่และน่าเกรงกลัวแค่ไหนก็ตาม มันจะพังทลายลงอย่างง่ายดาย เมื่อท่านมองไปที่งานที่สำเร็จแล้วของพระเยซูคริสต์ และโห่ร้องประกาศชัยชนะของพระองค์เหนือปัญหาของท่าน
Proclaim His finished work over your problems and challenges, and watch them crumble away as you shout in celebration of Jesus’ victory, for He has overcome the world. (John 16:33)
To Jesus be all the glory. Amen.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น